วิธีแก้ปัญหา svchost.exe ใช้งาน CPU 100%

หลายคนคงเคยเห็นปัญหา svchost.exe ใช้งาน CPU 100% บ่อยๆ โดยที่เราก็ไม่รู้สาเหตุ scan ไวรัสก็แล้วมันก็ไม่หาย และก็คงยังสงสัยกันอยู่ว่า ตกลงไอ้เจ้า svchost.exe มันเป็นไวรัสหรือเปล่า ซึ่งถ้าถามผมก็ต้องตอบว่า เป็นและไม่เป็น
“svchost.exe” หรือชื่อเต็มๆ ของมันคือ “Generic Host Process for Win32 Services” ซึ่งเป็นส่วนของ System process อีกตัวหนึ่ง ในระบบปฏิบัติการ Windows เมื่อมันถูกสั่งให้รันหรือทำงานโดย Windows ผู้ใช้งานไม่สามารถทำการหยุด, terminate, end process หรือ restart ได้ แต่ถ้าเราเผลอไป end proces ก็จะทำให้เครื่องของเราทำงานผิดพลาดได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ Network


ตำแหน่งที่อยู่ของ svchost.exe จะอยู่ที่ “%windir%\System32" หรือทั่วๆไป ก็คือ “C:\Windows\System32" หากไม่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าว สรุปได้เลยว่าเป็นไวรัส ซึ่งมีไวรัสหลายตัวพยายามสร้างชื่อ process เลียนแบบ svchost.exe เช่น W32.Welchia.Worm ,W32.Assarm@mm ,W32/Jeefo ,SCVHOST.exe (Gaobot viruses), Svch0st.exe (Backdoor.Graybird viruses), Svchos1.exe (W32.HLLW.Gaobot.DK virus), Svchost32.exe (Backdoor.IRC.Zcrew), W32.HLLW.Deborms.C, W32.Mimail.J@mm, W32.Paylap.@mm, Svhost.exe (Backdoor.Socksbot, Bat.Boohoo.Worm, W32.Bolgi.Worm) Tongue

จะเห็นว่ามีไวรัสหลายตัวพยายามจะสร้าง process หลอกลวงขึ้นมา แต่ในเบื้องต้นเราสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆ จากชื่อ Process ใน Task Manager (ถ้ายังเปิดได้) เช่น
- SCVHOST.exe
- Svch0st.exe
- Svchos1.exe
- Svchost32.exe
- Svhost.exe

Process เหล่านี้ถ้าเราสังเกตให้ดี ก็จะรู้ได้ไม่ยากครับว่ามันคือไวรัสเพราะชื่อมันยังไงก็ไม่เหมือน svchost.exe ส่วนวิธีกำจัดไวรัสจำพวกนี้มันก็ต้องแล้วแต่กรณีครับ


สาเหตุที่ svchost.exe (ไม่ใช่ไวรัส) ใช้งาน CPU 100% เกิดขึ้นเมื่อ Windows XP มีการสั่ง Automatic Update (โดยเครื่องนั้นต้อง turn on Automatic Update เอาไว้ด้วย)

วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 1
อย่างง่ายที่สุดก็คือ Turn off Automatic Update อันนี้แก้ที่ต้นเเหตุครับ โดยคลิกขวาที่ My Computer > Properties > เลือกแท็บ Automatic Updates > จากนั้นเลือกที่ Turn off Automatic Updates > Apply > OK เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

แต่ถ้าใครที่เจอปัญหานี้เข้าแล้ว และไม่สามารถแก้ได้ตามวิธีข้างต้น สามารถทำได้ดังวิธีต่อไปนี้นะครับ

วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 2(ใช้เมื่อทำขั้นแรกแล้วไม่หาย)
1. ดาวน์โหลด เครื่องมือมาก่อนจาก http://anonym.to/?http%3A%2F%2Fwww.mediafire.com%2F%3Fcomwzati2gn
2. แตกไฟล์ไว้ที่ desktop ครับ จะเห็นปรากฎ 3 ไฟล์ตามในรูป
3. boot เครื่องใหม่เพื่อเข้า safe mode (ต้องล็อกอินในฐานะ Admintrator ด้วยนะครับ)
4. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ตามลำดับ 1 ,2 และ 3 (ทำเช่นเดียวกับการลงโปรแกรม)
5. restart เข้าสู่ mode ปกติครับ

No comments:

Post a Comment