สำหรับความเป็นมาถึงการเล่นเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนการจัดฉายภาพยนตร์ โดยหัวหน้างานอนุรักษ์ภาพยนตร์ หอภาพยนตร์แห่งชาติ โดม สุขวงศ์ ให้ข้อมูลซึ่งเรียบเรียงจากรายการจดหมายเหตุกรุงศรี ว่า ธรรมเนียมการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย น่าจะมีมาแต่ครั้งรัชกาลที่ 5 เมื่อเริ่มมีการตั้งโรงภาพยนตร์แล้ว โดยเฉพาะโรงหนังญี่ปุ่นหลวง ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ถาวรแห่งแรกในสยาม และเป็นโรงแรกที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประดับตราแผ่นดิน
ธรรมเนียมนี้อาจได้แบบอย่างมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมืองสิงคโปร์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในปกครองของอังกฤษ มีการฉายพระบรมรูปพระราชินีอังกฤษและบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีคือเพลง "God Save the Queen-ก็อด เซฟ เดอะ ควีน" เมื่อจบรายการฉายภาพยนตร์ ให้ผู้ชมยืนถวายความเคารพ
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสชวา พ.ศ.2439 มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์บรรจบกัน 2 ประการคือ ได้ทอดพระเนตรประดิษฐกรรมผลิตภาพยนตร์ที่พระตำหนักเฮอริเคนเฮาส์ เมืองสิงคโปร์ และการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญจักรพรรดิมาลาแก่ผู้แต่งทำนองเพลงสรรเสริญพระบารมีถวาย ชื่อ นายยี.เอช.แวนสัชเตเลน ที่เมืองดยกชาการตา (ด-ยก-ชา-การตา) คือจาร์กาตาปัจจุบัน
เมื่อเสด็จกลับ โปรดเกล้าฯ นายเฮวุดเซน ครูแตรทหารมหาดเล็ก แต่งทำนองเพลงคำนับรับเสด็จอย่างเพลง God Save the Queen โดยพระราชทานทำนองเพลงที่นายแวนสัชเตเลนแต่งให้ นายเฮวุดเซนได้นำทำนองเพลงนั้นมาปรับปรุงเรียบเรียงขึ้นใหม่จนเป็นต้นเค้า ของทำนองเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ใช้อยู่ โดยบทที่บรรเลงในปัจจุบัน สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศานุวัดติวงศ์ ทรงนิพนธ์คำร้อง ส่วนทำนองประพันธ์โดย นายปโยตร์ สซูโรฟสกี้ ชาวรัสเซีย
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงแก้คำในวรรคสุดท้าย จาก "ดุจจะถวายชัย ฉะนี้" เป็น "ดุจจะถวายชัย ไชโย" และประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2456
เพลงสรรเสริญพระบารมีนี้เองที่ภายหลังเมื่อมีภาพยนตร์เข้ามา ฉายในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนังเงียบ ต้องมีแตรวงหรือวงเครื่องสายผสมบรรเลงประกอบการฉาย วงดังกล่าวจึงได้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อถวายความเคารพเมื่อภาพยนตร์ฉายจบ โดยแรกๆ คงบรรเลงอย่างเดียว ต่อมาจึงฉายกระจกพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินขึ้นบนจอด้วย ปฏิบัติเป็นธรรมเนียมทั่วทุกโรงภาพยนตร์ในสยาม โดยมิได้มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด และแม้เมื่อเปลี่ยนเป็นยุคภาพยนตร์เสียงในฟิล์มแล้ว โรงภาพยนตร์ทุกโรงยังคงฉายสไลด์พระบรมรูปและเปิดแผ่นเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี
สมัยต่อมามีการเปลี่ยนเป็นฉายพระบรมฉายาลักษณ์และเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนการฉายภาพยนตร์ ก่อนค่อยๆเปลี่ยนเป็นจัดทำเป็นภาพยนตร์พระราชกรณียกิจฉายประกอบเพลงซึ่งแต่ละโรง ภาพยนตร์ก็สร้างสรรค์งดงามแตกต่างกันไปในทุกวันนี้
No comments:
Post a Comment